พิมพ์เขียวของชีวิต

“เดินเรือต้องมีเข็มทิศ ชีวิตต้องมีพิมพ์เขียว”

คนต้องการความสำเร็จในชีวิตแต่จะมีซักกี่คนที่จะยอมเปลี่ยนแปลง ปรับตัวเอง เพื่อเดินทางไปสู่ความสำเร็จ เพราะคนเพาะบ่มนิสัยเดิมมากว่า 20 ปี 30 ปี 40 ปี มันเกิดความเคยชินในการทำซ้ำ ๆ เกิดความกลัวที่จะทำสิ่งใหม่ ๆ เกิดความขี้เกียจในการหาวิธีการ และอีกหลายเหตุผล

ในความเป็นจริงของชีวิต เรามีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาอยู่แล้ว เพราะเวลาเพียง 1 วัน ก็มี 24 ชั่วโมง 1140 นาที มันไม่เคยนิ่ง มันไม่เคยหยุด เพียงแต่เราคุ้นกับการผ่านไปของเวลาในแต่ละวัน แบบค่อยเป็นค่อยไปในความปกติของชีวิต

เราไม่เคยนั่งนับ ไม่จด ไม่จำ เลยไม่รู้ว่าการเดินทางของชีวิตมีค่าเพียงใด หลายคนมาเริ่มรู้ตัวเอาตอนอายุ 60 ปี แรงหมด เงินไม่มี แต่นึกได้ว่าต้องอยู่ไปอีกกี่ปีก็ไม่รู้กว่าจะตาย สยองขวัญกันเลยทีเดียว

จึงเป็นที่มาของการสร้างพิมพ์เขียวในชีวิต ซึ่งควรสร้างตั้งแต่เริ่มทำงาน เพราะเป็นจุดเริ่มต้นของความรับผิดชอบชีวิตอย่างจริงจังของคนไทยส่วนใหญ่ หลังจากพึ่งพาพ่อแม่มา 20 ปี ควรถึงเวลาใช้ความรู้ไปสร้างความสามารถ สร้างประสบการณ์ และตั้งเป้าหมายในชีวิตได้แล้ว โดยเริ่มต้นระยะสั้น 1-3 ปี ระยะกลาง 3-7 ปี ระยะยาว 7 ปี เป็นต้นไป ตระหนักว่าเราจะทำอะไร อย่างไร เพื่ออะไร แน่นอนว่าในการทำงานก็เพื่อหารายได้นั่นเอง เมื่อมีรายรับ ควรจ่ายอะไร เพื่ออะไร และเพื่อชีวิตที่ดีขึ้น ควรมีเงินออม และอาจเหลือไปลงทุน เป็นขั้นต่อไป ซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่เริ่มต้นทำงาน ด้วยการจัดสรรอย่างเหมาะสม

ถ้าการหารายได้ เพื่อมาใช้จ่ายและเลี้ยงชีพ เรียกว่าอยู่ไปวัน ๆ คงไม่ต้องมีพิมพ์เขียว เราจะมีพิมพ์เขียวเพราะเราจัดการกับรายได้ดังที่กล่าวแล้ว เพื่อทำให้ทุกช่วงของชีวิตมีความมั่นคง คำว่ามั่นคง คือ ตัวเองใช้ชีวิตอย่างที่ต้องการและไม่สร้างความเดือดร้อนให้ใคร และเมื่อสร้างพิมพ์เขียวต่อในแผนระยะยาวได้ตามเป้าหมาย ชีวิตก็จะมีความมั่นคั่ง คือ สามารถใช้ชีวิตอย่างสบายเพราะเราใช้แรงทำงานจนเกิดเงินมากพอที่จะใช้เงินทำงานแทนเรา ในการแบ่งปันก็จะตามมา

มีวิธีการมากมายที่จะบอกคุณว่า คุณจะบริหารเงินอย่างไรให้เกิดความมั่นคง และมั่งคั่ง ขอเพียงแต่ให้คุณมีเป้าหมายในชีวิตและสร้างพิมพ์เขียวให้ชีวิต ปักหมุดทุกช่วงวัยว่าจะทำอะไร “ไม่มีคำว่าสาย หากหัวใจยังสู้